วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

วิธีแก้ไข ในกรณีลืม password ใน Linux ubuntu
สวัสดี ^_^ คะทุกคนวันนี้เราจะมารีวิวการแก้ไขรหัสผ่านในกรณีที่เราลืมของ Linux ubuntu กันนะคะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมหละ.....งั้นเรามาดูกันเล๊ยยย....

ในที่นี้ผู้เขียนขอสมมุติว่า User ชื่อ parisa นะคะ
ขั้นตอนที่ 1 ให้เราทำการ restart หรือ shut down ก่อนเลยนะคะ
ขั้นตอนที่ 2 ในระหว่างการบูต Ubuntu จะมีคำสั่งให้เรา เลือก *Advanced options for Ubuntu ดังรูป


ขั้นตอนที่ 3 ให้เราเลือก *Ubuntu, with Linux 4.2.0-27-generic (recovery mode) ดังรูป


ขั้นตอนที่ 4 จะมีคำสั่งต่างๆปรากฏขึ้นมาให้เราเลือก Drop to root shell prompt หรือ root แล้วกด OK ดังรูป


ขั้นตอนที่ 5 จะมีเคเซอร์รออยู่ด้านล่างให้เราใส่คำสั่งนี้ mount -o rw,remount / แล้วกด Enter
                   พิมพ์ ls /home เพื่อเช็คว่าชื่อ User นั้นชื่ออะไร??
                   พิมพ์ passwd ตามด้วยชื่อ User  เช่น passwd parisa
                   จากนั้นให้เราใส่ password ใหม่ และยืนยัน password ใหม่อีกครั้ง
จะมีข้อความ ว่า password updated successfully ขึ้นมา แสดงว่ารหัสถูกเปลี่ยนแล้วเรียบร้อย
ต่อมาให้เรา พิมพ์ exit เพื่อออกจากหน้า ดังรูป


ขั้นตอนที่ 6 ให้เราเลือกคำสั่ง resume --> กด OK ดังรูป


ขั้นตอนที่ 7 ให้เราใส่ ชื่อ User ในที่นี้จะใช้ชื่อ parisa แล้วกด Enter แล้วใส่ password ที่เปลี่ยนใหม่ แล้วกด Enter เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ดังรูป



นี่คือหน้าตาที่สามารถเข้าสู่ระบบได้คะ


          เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับการรีวิวครั้งนี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้ถ้าหากเรายังคิดที่จะทำอยู่ ^_^ ถ้าผิดพลาดประการใดผู้เขียนก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สำหรับวันนี้บ๊ายบาย

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

การประกอบคอมพิวเตอร์แบบเดสท๊อป
"สวัสดีคะทุกคนมาพบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้เราจะมารีวิวการประกอบคอมพิวเตอร์แบบเดสท๊อป ในการประกอบในที่นี้ไม่ใช่การแกะแงะนะคะแต่เป็นการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเราจะมาวิเคราะห์ และเลือกซื้อสเปคและราคาที่เราต้องการ.... เพื่อไม่เป็นการเสียเวลางั้นเราไปกันเล๊ยค๊าาา.."

สำหรับวันนี้เราจะมาจัดสเปคในราคา 17,000 บาท นะคะ ซึ่งจะประกอบด้วย
     -CPU
     -Motherboard 
     -RAM
     -Graphic Processor Unit
     -HDD
     -DVD-ROM
     -PSU
     -Case
     -Keyborad
     -Mouse
     -Moniter

ก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อหรือจัดสเปคเรามาดูการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆกันก่อนนะคะ....^_^
การเลือกซื้อ ซีพียู(CPU)
     สำหรับการเลือกซื้อ ซีพียู  ซึ่งเป็นที่ที่สำคัญที่สุดซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเพราะซีพียูเป็นตัวที่จะกำหนดอุปกรณ์อื่นๆด้วย  และเป็นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์  การที่เครื่องเราจะแรงและเร็วแล้ว  ซีพียูเป็นตัวกำหนดหลักแทบทั้งสิ้น   เพราะฉะนั้นผมจึงขอให้กำหนด  สเป็กการซื้อคอมพิวเตอร์  จากตัวซีพียูก่อนะครับ  จะขอเรียงลำคับการพิจารณาการเลือกซื้อดั้งต่อไปนี้
1.ความเร็วของ ซีพียู
     ความเร็วของซีพียู   ซึ่งใช้สัญญาณนาฬิกาเป็นตัวกำหนดนะครับ  โดยมีหน่วยเป็น “เฮิรตซ์ (Hz)”  ก็คือการที่ซีพียูทำงาน 1 ครั้งต่อ 1 วินาทีนั้นเอง  แต่ในปัจจุบันซีพียูนั้นมีความเร็วมากอยู่ในระดับ “กิกะเฮิรตซ์ (GHz)” แล้ว  เช่น 1 กิกะเฮิรตซ์  คือซีพียูทำงานได้ถึง 1 พันล้านครั้ง  ต่อวินาที  ยิ่งมีค่าสัญญาณนาฬิกามากเท่าไหร่ก็สามารถทำงานได้รวดเร็วเท่านั้น เช่น AMD Phenom 9650 2.3GHz และ INTEL Core i3-4150 3.50 GHz
2.หน่วยความจำแคช(Cache)
     หน่วยความจำแคชก็เป็นหน่วยความจำหนึ่งที่ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ  เพราะแคชมีหน้าที่ในการจัดเก็บคำสั่งและข้อมูลที่ได้ใช้บ่อยๆ  เพื่อส่งไปยังซีพียู  ซึ่งแคชเองทำงานร่วมกับแรมเพื่อเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง 2 อุปกรณ์  ให้เชื่อมต่อกันเพราะฉะนั้นแล้วยิ่งมีแคชมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเร็วเท่านั้นด้วย
     ในปัจจุบันเองได้มีการเพิ่มเทคโนโลยี Pre-Fetch ในบางรุ่นจะมี ที่มีแคชถึงระดับ L3 ทำหน้าที่ในการคอยอ่านข้อมูลจากแรมมายังแควตลอกเวลา  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น  โดยความเร็วทั้ง 3 ระดับดังนี้
แคชระดับที่ 1 (L1) เป็นแคชขนาดเล็ก  เป็นแคชที่มีขนาดเล็กที่สุด  อยู่แค่ 32-128 KB เท่านั้น  และอยู่ใกล้ชิดกับซีพียูมากที่สุด
แคชระดับที่ 2 (L2) จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาเพราะจะทำการเก็บข้อมูลจากแรมเป็นหลัก
แคชระดับที่ 3 (L3) อยู่คั่นกลางระหว่างแรมกับแคช L2 โดยจะมีขนาดใหญ่กว่าเพื่อนซึ่งมีประมาณ 2-8 MB และจะอยู่ใกล้กับบัสเพื่อสามารถที่จะถ่ายโดยข้อมูลไปยังส่วนต่างๆได้ง่ายขึ้น
3.บัส(BUS)
    ถือได้ว่ามีความสำคัญเหมือนกัน เพราะ บัสคือ นำไฟฟ้าที่เป็นทางเดินของข้อมูลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งบัสในคอมพิวเตอร์คือบัสข้อมูล (Data bus) ซึ่งมีหน่วยเป็น เฮิรตซ์ (Hz)  จะมีค่า FSB อย่างเช่น FSB 1066 เป็นต้น
4.ซีพียู จากค่ายต่างๆ
     สำหรับซีพียูนี้ก็มี 2 ค่าย ใหญ่ที่ผลิตออกมาให้เราได้ใช้กันคือ Intel และ AMD
Intel เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด แล้วยังเป็นผู้ผลิต ซีพียูรายแรกอีกด้วย  สำหนับซีพียู  ที่ Intel ผลิตนั้นก็มีหลาย รุ่นออกมาให้เลือก และต่างมีเทคโนโลยีที่ต่างกัน

การเลือกซื้อเมนบอร์ด
1.ซ็อกเก็ต
     ซ็อกเก็ตมีตำแหน่งที่ติดตั้ง  ซีพียู  ซึ่งจะเลือกซ็อกเก็ตแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กันที่เราเลือกซื้อซีพียูด้วย  ไม่ว่าจะเป็นซ็อกเก็ตไหนเราก็ต้องที่จะเลือกซีพียูนั้นก่อนคะ  ถึงที่จะเลือกในขั้นต่อไปได้
2.ในเรื่องซิปเซ็ต
     ซิปเซ็ตมีความสำคัญอย่างยิ่ง  เพราะเป็นสิ่งที่รองรับเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงรองรับอุปกรณ์ต่างๆด้วย  ควนที่จะคำนึงถึงตรงนี้ก่อนคะ  ว่าเข้ากับอุปกรณ์อะไรบ้าง  โดยจะมีซิปเซตอยู่ 2 แบบก็คือ
    - North Bridge
               เป็นซิปเซตที่ควบคุมการทำงานที่ควบคุมอุปกรณ์หลักใหญ่ๆ  เลยได้แก่ ซีพียู แรมและ สล็อตของการ์อจอด้วย
    - South Bridge

               เป็นซิปเซต  ที่ควบคุมอุปกรณ์ที่นอกเหนือจาก North Bridge ที่ควบคุมอยู่  จะเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ  และสล็อตต่างๆด้วย
3.สล็อกต่างๆ
     เป็นสิ่งสำคัญมากในการเลือกซื้อเช่นกัน  เพราะว่าจะเลือกแบบมี ที่ใส่แรม หรือสล็อก PCI มาแค่ไหนขึ้นอยู่กับความต้องการว่าจะมีอุปกรณ์ใดมาเสริมอีกหรือไม่
4.หน่วยความจำรอมไบออส 
     ไบออส BIOS (Basic Input Output System) หรืออาจเรียกว่าซีมอส (CMOS) เป็นชิพหน่วยความจำชนิด หนึ่งที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล และโปรแกรมขนาดเล็กที่จำเป็นต่อการบูตของระบบคอมพิวเตอร์ โดยในอดีต ส่วนของชิพรอมไบออสจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ชิพไบออส และชิพซีมอส ซึ่งชิพซีไปออสจะทำหน้าที่ เก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต่อการบูตของระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนชิพซีมอสจะทำหน้าที่ เก็บโปรแกรมขนาดเล็ก ที่ใช้ในการบูตระบบ และสามารถเปลี่ยนข้อมูลบางส่วนภายในชิพได้ ชิพไบออสใช้พื้นฐานเทคโนโลยีของรอม ส่วนชิพซีมอสจะใช้เทคโนโลยีของแรม

การเลือกซื้อแรม
     สำหรับแรมก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเช่นกันเพราะฉะนั้นแล้วเราควรเลือกให้ถูกวิธีด้วย  สำหรับขึ้นตอนการเลือกซื้อแรม  มีขั้นตอนการเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1.ประเภทของแรม
   1.1 DDR 2
      สำหรับ DDR 2 นั้นมีความนิยมเป็นอย่างยิ่งในขนาดนี้ถือเป็นแรมตลาดเลยที่เดียว  เพราะในปัจจุบันนี้เมนบอร์ดเองก็สามารถรองรับการทำงานของแรมชนิดนี้ได้หมดแล้ว  แล้วราคาในขณะนี้ก็มีราคาที่ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับชนิดอื่นๆ  และในเรื่องของความเร็วก็สามารถใช้ได้เร็วมากเลยที่เดียว  มีความเร็วตั้งแต่ 400-1,066 MIz ใช้แรงดันไฟฟ้า 1.8 V
   1.2 DDR3
     เป็นแรมประเภทมี่พึ่งมาใหม่ล่าสุดเลย  ซึ่งมีความเร็วสูงสุด  ถึง 1,600-2,000 MHz เลยทีเดียวคะ  แล้วใช้แรงดันไฟฟ้าแค่เพียง 1.5 V เท่านั้น  ถือได้ว่ามีความเร็วสูงกว่าทุกประเภทแต่ปัจจุบันนี้ได้มี DDR4 มาแล้วเอาไว้คราวหน้าตอนที่มีคนใช้เยอะๆ  จะมาเล่าให้ฟังนะครับ ส่วนราคาตอนนี้ยังสูงอยู่  แต่ถ้าใครต้องการซื้อหรือมีตังพอไม่ขัด ครับ  เพราะว่ากำลังจะเป็นที่นิยมกันแล้ว  แต่ต้องดูด้วยว่าเมนบอร์ดของเรานั้นรองรับหรือไม่  เพราะว่ายังมีเมนบอร์ดที่ยังไม่รองรับอีกเยอะคะ  ที่สำคัญ DDR3กับ DDR2 ใช้สล็อตเดียวกันไม่ได้เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ผิด
2.หน่วยความจำ
     แรมนั้นมีหน่วยความจำหลัก  ที่จำเป็นต้องการความจำสูงเพื่อประสิทธิภาพของการทำงานเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย  โดยหน่วยความจำของแรมนั้น มีหน่วยเป็น GHz  ยิ่งมีความจำมากก็ทำให้เครื่องเราเร็วขึ้นไปด้วย ราคาของแรมที่มีความจุสูงๆ เดี่ยวนี้ราคาไม่แพงมากนัก  แต่ก็ควรที่จะดูว่าขนาดไหนเหมาะกับเรา  เพื่อจะได้ไม่สิ้นเปลืองมากกว่าปกติ
3.ความเร็ว
    ความเร็วหรือว่า บัสของแรมนั้นก็มีความสำคัญเพาะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การถ่ายโดนข้อมูลได้เราขึ้น ซึ่งก็ได้กล่าวไปแล้ว่าประเภทของแรมนั้นก็มีความเร็วที่แตกต่างกัน  แล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดเราอีกนั้นล่ะว่าจะรองรับได้มากแค่ไหน  หรือถ้าใครซื้อแรมชนิดไหนก็ได้ที่มีความเร็วสูงไปที่เมนบอร์ดจะรองรับก็สามารถจะใส่ได้เมื่อซื้อแรมที่เป็นประเภทเดียวกันเท่านั้นแต่ความเร็วของแรมก็เท่ากับ  เมนบอร์ดรองรับ  และใครที่ซื้อแรมมา 2 ตัวแต่ มีความเร็วเท่ากัน  มันก็จะใช้แรมที่มีความเร็วต่ำกว่านั้นเอง

การเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์
     สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาก  เพราะฉะนั้นแล้วจึงมีการเลือกซื้อให้เหาะสมกับความต้องการของเรา  ในปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ได้มีราคาต่อความจุถูกมาก  และมีความเร็วที่แตกต่างกัน  จะข้อแนะนำการเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1.ประเภทของ ฮาร์ดดิสก์
     ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ๆ กันอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน  คือ  (สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่เชื่อมต่อภายนอกจะขอกล่าวในลำดันถัดไป)
     – แบบ IDE เป็นฮาร์ดดิสก์ ที่จะบอกว่ารุ่นเก่าแล้วก็ว่าได้  เพราะว่ามีรุ่นใหม่ที่เร็วกว่าประหยัดทั้งพื้นที่ประทั้งพลังงานได้ดีกว่า  และเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะราคาแพงกว่า SATA ด้วยซ้ำ
     – แบบ SATA เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามามนตอนนี้และได้มีความนิยมเป็นอย่างมาก  เพราะว่าในเมนบอร์ดรุ่นใหม่นั้นก็ลองรับได้หมดแล้ว  และมีราคาที่ถูกกว่า ฮาร์ดดิสก์ แบบSATA
2.ขนาดของความจุ
     ความจุของฮาร์ดดิสก์หรือพื้นจัดเก็บข้อมูล  นั้นมีความสำคัญว่าเราจะใช้งานประเภทใดและต้อง  เลือกความจุขนาดใดใครที่ชอบทำงานด้านมัลติมีเดียก็ต้องเลือกความจุมากๆ ปัจจุบันนี้มีความจุ ถึง 2 GB ไปแล้วซึ่งสามารถเก็บข้อมูลจนลืมไปเลยว่าซื้อมาตอนไหน  ไม่รู้จักเต็มสักที  แต่ก็ยังมีราคาที่สูงอยู่นั้นเอง

การเลือกซื้อการ์ดแสดงผล
1. ตรวจสอบชนิดการเชื่อมต่อการจอภาพที่คุณต้องการ รูปแบบการเชื่อมต่อที่เมนบอร์ดรองรับ หรือหากซื้อเมนบอร์ดแล้วให้พิจารณาว่าจะใช้การ์ดแสดงผลที่เชื่อมต่อในรูปแบบใด หรืออาจจะพิจารณาเลือกรูปแบบการเชื่อมต่อ จากนั้นจึงซื้อเมนบอร์ด และซีพียูก็ได้
2. ตรวจสอบการเข้ากันได้ของการ์ดแสดงผล โดยการ์ดแสดงผลจะมี AGP2x/4x/8x นอกจากนี้ยังมีแรงดันไฟที่ต่างกัน เช่น 3.3 โวลต์อีกด้วย
3. พิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนการจัดสเปคคอมพิวเตอร์ ว่าจะใช้เมนบอร์ดที่รองรับการ์ดแสดงผลแบบใด แล้วจึงเลือกการ์ดแสดงผลที่ต้องการ หรือหากต้องการเชื่อมต่อการ์ดแสดงผลแบบคู่ก็ต้องเลือกตั้งแต่เมนบอร์ดเลยทีเดียว
4. ตรวจสอบให้ดีว่าโปรแกรมหรือเกมที่คุณใช้นั้น รองรับเทคโนโลยีใดบ้าง แล้วจึงเลือกให้เหมาะสมกับงานที่เราใช้จริง

การเลือกซื้อจอภาพ
1. ควรเลือกจอภาพขนาด 15 นิ้วขึ้นไปเป็นอย่างน้อย เพราะปัจจุบันจอภาพ 15 นิ้ว มีราคาสูงกว่าจอภาพขนาด 14 นิ้วเล็กน้อยเท่านั้น
2. ควรเลือกจอภาพที่มีค่าระยะด็อตพิชต์ต่ำๆ เพราะจะทำให้ภาพออกมาคมชัด
3. เลือกจอภาพที่สามารถเลือกความละเอียดได้หลายโหมด
4. ควรเลือกแบบจอแบน เพราะจอแบนจะมีคุณสมบัติในการหักเหของแสงสะท้อนที่ตกกระทบบนจอภาพออกไปในทิศทางที่หลบออกจากสายตาผู้ใช้
5. ตรวจดูปุ่มรับการควบคุมจอภาพต่างๆ ว่าสามารถปรับอะไรได้บ้าง ใช้งานง่ายและสะดวกหรือไม่
6. จอภาพที่นิยมใช้ ได้แก่ ADI, CTX, LG, MAG, Panasonic,  Philips,  SONY,  Sumsung, Viewsonic เป็นต้น

การเลือกซื้อดีวีดีอาร์ดับบริว
     ดีวีดีอาร์ดับบลิวไดร์ฟ (DVD-RW Drive) มีลักษณะคล้ายกับซีดีอาร์ดับบลิวไดร์ฟ คือสามารถอ่านและเขียนแผ่นดีวีดีแบบพิเศษ คือแผ่น DVD-R และแผ่น DVD-RW ได้ ปัจจุบันผู้ผลิตหลายๆ ราย นิยมติดตั้งไดร์ฟชนิดนี้มาก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องทำงานกับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ข้ึน และที่สำคัญราคาไดร์ฟประเภทน้ีมีราคาลดต่ำลงมาก( ประมาณ 1,000-2,000 บาท)ซึ่งกลายมาเป็นมาตรฐานของไดร์ฟบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

การเลือกซื้อเมาส์
    การเลือกซื้อเมาส์ควรเลือกซื้อเมาส์โดยดูลักษณะต่างๆของเมาส์ได้ดังนี้
1. การออกแบบการทำงานของเมาส์ ควรเลือกพิจารณาจากการทำงานของเมาส์ตาม ลักษณะที่ต้องการใช้งาน
2. การอินเทอร์เฟด (interface) เมาส์ จะต้องศึกษาดูว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่นั้นมีพอร์ต(port) ประเภทใดอยู่
3. ความยาวของสาย เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องดูก่อนเลือกซื้อ เพราะความยาวของสายเมาส์มีผลต่อการเคลื่อนตัวของเมาส์เวลาทำงาน หากสั้นเกินไปอาจทำให้การทำงานติดขัดหรืออาจทำให้สายหลุดจากขั้วต่อจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกสายเมาส์ที่มีความยาวพอเหมาะกับเครื่องและการทำงาน
4. จำนวนปุ่ม ควรเลือกซื้อตามความจำเป็นในการใช้งาน
5. รูปร่างของเมาส์ ควรเลือกซื้อเมาส์ที่มีรูปลักษณะพอเหมาะและสะดวกต่อการใช้งาน ซึ่งจับแล้วต้องรู้สึกสบาย ไม่เมื่อยมือ
6. การเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ ต้องเลือกซื้อเมาส์ที่เข้ากันได้กับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่
7. ราคา ขึ้นอยู่กับรูปร่าง ลักษณะการใช้งานของเมาส์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ด้วย ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ตามความพอใจ เพราะมีทั้งราคาถูกจนถึงราคาแพง

การเลือกซื้อคีย์บอร์ด
     คีย์บอร์ดเป็นอุปกรณ์รับข้อมูลหรือเป็นส่วน Input เพื่อนำไปประมวลผล คีย์บอร์ดมีหลาย แบบ เช่น แบบมีปุ่มควบคุมการเล่นเพลง ซึ่งเรียกว่าคีย์บอร์ดแบบมัลติมิ เดีย คีย์บอร์ดแบบไร้สาย สื่อสารข้อมูลผ่านพอร์ตอินฟราเรด เป็นต้น
ประเภทของคีย์บอร์ด 
     1. Serial Key Board เป็นคีย์บอร์ดที่มีมาแต่ดั้งเดิม ยุคกำเนิดคอมพิวเตอร์ สังเกตง่ายๆ ก็คือส่วนหัวสำหรับต่อกับเมนบอร์ด จะมีขนาดใหญ่ คีย์บอร์ดประเภทนี้ จะใช้กับเมนบอร์ดหรือเคส แบบ AT
     2. PS/2 Key Board เป็นคีย์บอร์ดที่พัฒนาขึ้นใหม่ ส่วนหัวต่อมีขนาดเล็กกว่าแบบแรก คีย์บอร์ดประเภทนี้จะใช้กับเมนบอร์ด หรือเคสแบบ ATX
     **ไม่ว่าจะมียี่ห้อหรือคีย์บอร์ดทั่วๆ ไป ราคา 200 กว่าบาท ก็ค่อนข้างทนทานพอสมควร ตั้งแต่ ใช้เครื่องมายังไม่เคยใช้จนพังเลยสักที แต่มีสิ่งที่ต้องใส่ใจในการเลือก ซื้อก็คือ ปุ่มต่างๆ นิ่มมือดีหรือ ไม่ เสียงไม่ดังเกินไป ลองวางมือแล้วพิมพ์ข้อความแล้วรู้สึกคล่องดีหรือไม่ และสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ก็คือเลือกหัวต่อให้ถูกต้อง ตรงกับ เมนบอร์ดที่ใช้

การเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลาย
    1. พาวเวอร์ซัพพลายที่ซื้อควรจะเป็นมาตรฐาน ATX 2.x
    2. เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่มีคอนเน็คเตอร์สำหรับเมนบอร์ดแบบ 24 pin หรือแบบ 20+4 pin
    3. เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่มีคอนเน็คเตอร์ AUX 12 โวลต์ 4 pin อย่างน้อย 1 เส้น หรือถ้า                     คอมพิวเตอร์เราเป็นแบบประสิทธิภาพสูงเช่นต้องการใช้กับซีพียูแบบ Quad-Core ก็ให้                       เลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่มี AUX 12 โวลต์แบบ 8 pin หรือถ้าจะให้ดีมันมีพาวเวอร์                             ซัพพลายบางรุ่นจะมีคอนเน็คเตอร์ AUX 12 โวลต์ แบบ 4+4 ให้ใช้ ก็น่าสนใจ หมายถึงเป็น                 แบบ 4 pin สองตัวประกบกันเป็น 8 pin และแยกกันได้เมื่อต้องการใช้แบบ 4 pin
    4. ควรเลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายที่มีคอนเน็คเตอร์สำหรับต่อกับฮาร์ดดิสก์หรือออปติคอล                   ไดร์ฟแบบ SATA อย่างน้อย 4 ชุด ถ้ามากกว่าได้ก็ยิ่งดี
    5. ถ้าคุณต้องการใช้กราฟิกการ์ดพลังสูงก็มองหาพาวเวอร์ซัพพลายที่มีคอนเน็คเตอร์ที่เรียก                 ว่า PCI-E ซึ่งจะเป็นคอนเน็คเตอร์แบบ 6 pin อย่างน้อยหนึ่งเส้น แต่ถ้าจะให้ดีก็ดูรุ่นที่มันมี                   PCI-E 6 pin อย่างน้อยสักสองเส้นจะดีที่สุด
    6. ถ้าคุณต้องการใช้กราฟิกการ์ดแบบ SLI หรือแบบ CrossFire ก็ให้มองหาพาวเวอร์                             ซัพพลายที่มีโลโก้ประเภท SLI Ready หรือ CrossFire Ready เอาไว้ได้เลย เพราะ                             กราฟิกการ์ดพวกนี้จะต้องใช้พลังงานที่สูง
    7. เลือกซื้อพาวเวอร์ซัพพลายเป็นอุปกรณ์ตัวสุดท้าย โดยคุณควรจะทำการดูคู่มือของ                           อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละชิ้นก่อนว่าต้องการแรงดันไฟแต่ละแบบเป็นอย่าไร แล้วลองใช้                
วิธีคำนวณตามตัวอย่างตารางที่ 6 หรือถ้าขี้เกียจจริงๆ ก็ให้ลองสำรวจดูว่าคู่มือที่เราอ่าน                       
มานั้นมีอุปกรณ์ตัวไหนที่บอกว่าต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายขนาดกี่วัตต์ เท่าที่ลองใช้วิธีนี้                       เราพบว่ากราฟิกการ์ดจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเลือกพาวเวอร์ซัพลายได้ดีที่สุด เพราะในคู่มือ                     ของกราฟิกการ์ดจะบอกเลยว่าควรจะใช้กับพาวเวอร์ซัพพลายขนาดกี่วัตต์

หลังจากที่เราได้รู้วิธีการเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆแล้วนะคะ เราก็จะไปเลือกจัดสเปคเลยคะ ไปกันเล๊ยยย....

1. CPU 
INTEL Core i3-4150
INTEL Core i3-4150
    
รายละเอียด - Brand Intel - Model Cor i3-4150 - CPU Core/Thread 2/4 - Frequency 3.50 GHz 
                    - Architecture 22nm - Cache L2 2x256KB -Cache L3 3MB - Power Peak 54W 
                    - รับประกัน 3 ปี
ราคา 3,760 บาท

2. Mainboard 
ASROCK H81M-VG4

ASROCK H81M-VG4

รายละเอียด - Brand ASROCK  - Model H81M-VG4  - Socket LGA1150  - CPU Support Intel    Pentium/Celeron/Corei3/Corei5/Corei7 processors  - Mainboard Chipset IntelH81
- จำนวน Slot แรม 2  - ชนิดของแรม Dual Channel DDR3 1600/1333/1066 - ความเร็วสูงสุด 16 GB
- VGA Onboard Chip Intel HD Graphics 4400/4600  - Audio Chip Realtek ALC662 Audio Codec 
- รองรับระบบเสียง 5.1 Channeks HD Audio  - Port SATA 2 และ Port SATA 3 2 Port  - รับประกัน 3 ปี
ราคา 1,450 บาท

3. RAM
KINGSTON DDR3 2GB 1333
KINGSTON DDR3 2GB 1333
รายละเอียด  - Brand Kingston  - Model DDR3 3GB 1333  - ชนิดแรม DDR3  - ความจุ 2GB  
                       - RAM Bus 1333  - CL Timing 9  
ราคา 420 บาท

4. Graphic Processor Unit
HIS R7 250 IceQ Boost ClockR7 250 IceQ Boost Clock

HIS R7 250 IceQ Boost Clock

รายละเอียด  - Bus Type PCI-ex 3.0 16x  - Chipset AMD  - Technology 28nm  
                     - ความเร็ว GPU 1000MHz  - Shader Clock 5.0  - ความเร็วแรม  1150MHz
                     - ขนาดความจุแรม 1 GB  - ชนิดของแรม DDR5  - Bus Width 128bit  -การรับประกัน 3 ปี
ราคา 2,960 บาท

5. HDD
Toshiba 500GB

TOSHIBA 500GB

รายละเอียด  - Brand Toshiba  - Model 500GB  - ความจุ 500GB  - ขนาด Harddisk 3.5 
                      - ความเร็วจานหมุน 7200  - ขนาด Buffer 32MB  - Port เชื่อมต่อ SATA III
                      - การรับประกัน 3 ปี
ราคา 1,440 บาท

6. SSD
KINGSTON V300 60GB

KINGSTON V300 60GB

รายละเอียด  - Brand KINGSTON  - Model V300 60GB  - ความจุ 60 GB  - ขนาด SSD 2.5
                       - ความเร็วการอ่าน/เขียน 450/450  - MaxRandom 4K Up to 85,00/up to 60,000 IOPS
                       - Technology SandForce  - Port เชื่อม SATA III  - การรับประกัน 3 ปี
ราคา 1,290 บาท

7. CASE 
COOLER MASTER Elite 311 (Black-Red)

COOLER MASTER Elite 311 (Black-Red)

รายละเอียด  ประเภม Mid Tower - รองรับ Motherborad mATX/ATX - ขนาด 190x450x477
- รองรับ VGA ขนาด 281mm
ราคา 990 บาท

8. พาวเวอร์ซัพพลาย (PSU)
RAIDMAX RX-450SS
RAIDMAX RX-450SS
รายละเอียด  - Brand RAIDMAX  - Model RX-450SS  - Series RX-SS  - ประเภท Power Supply N/A
                     - กำลังไฟสูงสุด 450W  - Fan Size 1x135mm Fan  - Minboard Connector 20+4 Pin
                     - PCI Ex Connector 1x6+2Pin 2 Connector  - Sata Connector 6  
                     - รองรับการ SLI Certified  - สามารถถอดสายได้ Modular  - รองรับไฟขาเข้า 110-230 V
                     - ช่วงความถี่ขาเข้า 50/60 Hz  - การรับประกัน 3 ปี
ราคา 870 บาท

9. Monitor
E960SWN
AOC E960SWN
รายละเอียด  - Brand AOC  - Model E960SWN  - Full HD No  - Resolution 1366x768
                     - Response Time 5ms  - VGA Port 1  - การรับประกัน 3 ปี
ราคา 2,520 บาท

10. DVD RW
DVD RW SATA 24X SAMSUNG รุ่น 224
รายละะเอียด  - Brand SAMSUNG  - Model DVD RW SATA 24X SAMSUNG รุ่น 224 
                       - Buffer Size 1.5 MB  
                       - CPU Support Intel® Socket 1155 for 3rd/2nd Generation Core™ i7/Core™ 
ราคา 470 บาท

11. Keyborad
USB Keyboard DTECH (DS-2607) Black
USB Keyboard DTECH (DS-2607) Black
รายละเอียด  - Brand DTECH  - Model DS-2607  - Interface USB  
                       - Keys Windows Layout 104 Keys
                     - Support Windows 98 SE/ME/2000/XP/7/8  - รับประกัน 1 ปี
ราคา 170 บาท

12.  Mouse
USB Optical Mouse MD-TECH (MD-64) Black
USB Optical Mouse MD-TECH (MD-64) Black
รายละเอียด  - Brand MD-TECH  - Model MD-64  - Interface USB  - High Resolution 1200 DPI
                       - Buttons 3 Buttons  - Sensing technology Optical  - รับประกัน 1 ปี
ราคา 155 บาท

ราคารวม 16,495 บาท ถือว่าอยู่ในงบประมาณที่เราต้องการ

       สำหรับวันนี้ก็ต้องขอจบการรีวิวไว้เพียงแค่นี้ก่อนนะคะ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้เขียนก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย บ๊ายบาย....^_^
การติดตั้ง Ubuntu Server
"สวัสดีคะทุกคนวันนี้เราจะมารีวิวการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Ubuntu Server 14.04.1 กันนะคะ ก่อนที่เราจะไปติดตั้ง เรามาดูข้อดีของระบบปฏิบัติการ Ubuntu กันเลยคะ... Les go"


ข้อดี
1. ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายและสามารถใช้งานได้ทุกรูปแบบ โดยไม่มีเงื่อนไขกำหนด
2. ระบบการป้องกัน Ubuntu มีการป้องกันโดยให้สิทธิเฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้นโดยต้องมีการกรอกรหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนที่แท้จริงก่อนจึงอนุญาตให้ทำงานในระบบได้
3. Full Customization นอกจากการปรับปรุงต่างๆ จนกลายเป็น OS แล้ว ในเรื่องอื่น เช่น หน้าตา หรือสามารถปรับเปลี่ยนได้ ทั้งจะเปลี่ยนหน้าตา หรือการใช้งาน ให้เป็นอย่างที่ต้องการก็ได้
4. Thai Language Integrated smoothly การใช้ภาษาไทยใน Ubuntu ทั้งด้านอ่าน การเขียน หรือเมนู โปรแกรมภาษาไทยใช้งานได้ดี เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่เริ่มใช้งานใหม่ๆ สามารถใช้งานได้ง่าย
5. Required Minimal Hardware Resources การใช้ทรัพยากรน้อย ความต้องการฮาร์ดแวร์ต่ำ เครื่องไม่แรงก็สามารถลงได้
6. สามารถดาวโหลดโปรแกรมต่างๆได้ฟรี 

ข้อเสีย
1. Not Compatible with Windows เกี่ยวกับงานด้านเอกสารทั่วไปโดยเฉพาะคนไทยมักจะใช้ Miciosoft Office ดังนั้นการแลกเปลี่ยนเอกสารใช้งานซึ่งกันและกันอาจจะพบปัญหาความเข้ากันได้ และความผิดเพี้ยน
2. Some Website Require Internet Explorer 2 only ในการเรียกใช้ Internet Explorer ต้องใช้ เวอร์ชั่น 6.0 เท่านั้น
3. Flash Player more Perfect in Windows Only การนำ Flash มาใช้ตกแต่งหรือทำเป็นอินเตอร์เฟสปัญหาคือ Flash Player จาก Adobe มีประสิทธิภาพเสียมาก ดังนั้นการใช้งานบางเว็บอาจใช้งานไม่ได้หรือใช้ได้ไม่หรือไม่ก็กิร CPU จนน๊อก
4. Shortly Support เวอร์ชั่นที่มีระยะเวลาการใช้งานมากกว่า 18 เดือน จะไม่มีการ Support และ Update 
ข้อเสีย
     เราได้ทราบข้อดีข้อเสียกันแล้วใช่ไหมคะ งั้นเรามาดูวิธีการเตรียมแฟรตไดร์ในการติดตั้งกันเลยค๊าาาา...
     ก่อนอื่นเราต้องดาวโหลดตัว setup Ubuntu Server 14.04.1 ก่อนนะคะ โดยเราสามารถเข้าไปดาวโหลดได้ฟรีตามเว็บต่างๆ      ให้เราดาวโหลดโปรแกรม Universal-USB-Installer มาด้วยนะคะเพื่อที่เราจะทำการให้แฟรตไดร์สามารถบูตได้
เมื่อเราโหลดมาครบทั้งสองอย่างแล้วให้เราทำตามขั้นตอนเพื่อเตรียมอุปกรณ์การบูตดังนี้
1. ให้เราดับเบิ้ลคลิกที่โปรแกรม Universal-USB-Installer 2. คลิกที่ I Agree

3. คลิกเลือก Ubuntu

4. คลิก Browse แล้วเลือกไฟล์ Setup ที่เราโหลดมา


5. คลิกเลือกแฟรตไดร์ที่เราจะใช้เป็นอุปกรณ์การบูต แล้วติ๊กที่ We will format จากนั้นคลิก Create


6.  คลิก Yes แล้วรอสักครู่

  

7. คลิก Close เป็นอันสิ้นสุด 

เมื่อเราได้ตัวบูตเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้เราดำเนินการติดตั้งดังนี้

1. ให้เราทำการ restart เครื่องก่อน จากนั้นกด F12 (แล้วแต่เครื่องในกรณีของ Dell จะกด F12) เพื่อเลือกอุปกรณ์การบูต

2. ทำการเลือก Install Ubuntu Server มันก็จะปรากฏหน้าตาดังรูป


3. ให้ทำการดับเบิ้ลคลิกที่ Install ตรงหน้าเดสท๊อป ก็จะมาหน้านี้เป็นโซนเวลา จากนั้นเลือกตั้งค่าแล้วก็ คลิก Continue 


4. หน้านี้จะเป็นหน้าตั้งค่าภาษาที่ใช้พิมพ์ ก็เลือกตามที่เราใช้งาน แล้วก็คลิก continue


5. ในส่วนนนี้ก็ให้ใส่ You name และใส่ password จากนั้นก็คลิก continue


6. จากนั้นก็จะทำการติดตั้งระบบ เราก็นั่งรอนอนรอเลยคะ ^_^ ตามสบาย



7. เมื่อมันติดตั้งเสร็จก็ทำการรีเครื่องคะ Restart Now ห้ามกดปุ่มใดๆนะคะ


8. เมื่อ restart แล้วก็จะใช้งานได้เลยคะ.... หากเราต้องการโปรแกรมเพิ่มเติมเราก็สามารถดาวโหลดเพิ่มเติมได้นะค๊าาา


     สำหรับการรีวิวการติดตั้ง Ubuntu Server ก็ต้องของจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ^_^  บ๊ายบายยยย

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

รีวิวการจัดสเปคคอมพิวเตอร์
"สวัสดีคะทุกคน ^_^ มาพบกันอีกแล้วนะคะ วันนี้เราจะมารีวิวการจัดสเปคคอมพิวเตอร์แบบเดสทอป หลายคนอาจคิดว่าจะจัดสเปคไปทำไม ในเมื่อเราสามารถไปซื้อได้เลยมีหลายราคาให้เลือก บอกได้เลยว่าการจัดสเปคคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองจะทำให้เราได้คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา ราคาก็จะได้ใกล้เคียงกับที่เราอยากได้ วันนี้เราเลยจะพามาจัดสเปคคอมพิวเตอร์ มาดูกันเล๊ยยค๊าาาา..."

การจัดสเปคคอมพิวเตอร์แบบโฮมออฟฟิตในราคา 17,500 บาท
ก่อนอื่นเราต้องเขาเว็บไซต์ที่เขามีให้คะ ในที่นี้ผู้เขียนขอเลือกเว็บ http://notebookspec.com/PCspec ในการจัดสเปคนะคะ

1. ให้เราคลิกที่ จัดสเปก Auto หรือถ้าใครไม่อยากจัด Auto ก็สามารถเลือกอุปกรณ์ต่างๆด่านล่างได้เลยคะ

2. ให้เราเลือกราคาและสเปคที่เราต้องการ จากนั้นคลิกจัดสเปค

3. นี่คือสเปคที่เขาจัดให้เราอัตโนมัติ ตามราคาที่เราตั้งไว้

4. รายละเอียดสเปคคอมพิวเตอร์ในราคา 17,390 บาท โดยเราสามารถไปเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆได้ตามรายละเอียดด้านล่างเลยคะ

รายละเอียดต่างๆ
1. CPU
 

2. Mainboard
 
3.RAM
 
4. VGA Card
 
5. Hard disk
 
6. Case
 
7. Power Suppy
 
8. Moniter
 
ต่อมาเราจะมาจัดสเปคในราคา 21,000 บาทนะคะ สำหรับการจัดสเปคเราสามารถเลือกให้ตรงกับความต้องการของเราได้ 


รายละเอียดของสเปคคอมพิวเตอร์ เราสามารถไปเลือกซื้อตามรายละเอียดในตารางได้เลยคะ

หมายเหตุ การเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าชอบแบบไหน ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดของอุปกรณ์ต่างๆให้ดี เพื่อให้เหมาะกับคอมพิวเตอร์ที่เราจะใช้งาน

เป็นไงกันบ้างคะกับการจัดสเปคคอมพิวเตอร์ นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ง่ายนิดเดียวเองใช่ไหมคะ ถ้าใครมีความสนใจจะจัดสเปคคอมพิวเตอร์ด้วยตนเองก็ลองเข้าไปทำในลิงค์ด้านบนได้เลยคะ

สำหรับวันนี้ก็ต้องขอจบไว้เพียงแค่นี้ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยคะ บ๊ายบายยย